เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เป็นเขื่อนดินกักเก็บน้ำที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ตามแนวพระราชดำริของ ในหลวง รัชกาลที่ 9
ตั้งอยู่ใน ตำบลหนองบัว อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี และตำบลคำพราน อำเภอวังม่วง จังหวัดสระบุรี สามารถรองรับน้ำได้ถึง 756 ล้านลูกบาศก์เมตร
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์แห่งนี้ นอกจากจะทำเป็นสถานที่กักเก็บน้ำแล้ว ทาง จ.ลพบุรี ยังสนับสนุนให้เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดอีกด้วย
โดยจังหวัดลพบุรีได้ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย จัดรถไฟขบวนรถพิเศษนำเที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ หรือที่เรียกกันว่า "รถไฟลอยน้ำ"
นอกจากรถไฟขบวนนี้จะนำเราไปชมความงามของเขื่อนแล้ว รถไฟลอยน้ำขบวนนี้มีไฮไลท์เด็ดก็ตรงที่ เมื่อขบวนรถไฟแล่นมาถึงกลางเขื่อนป่าสักฯ รถไฟจะจอดให้นักท่องเที่ยวในขบวนได้ลงไปสัมผัสความงามของเขื่อนอย่างใกล้ชิดเป็นเวลา 30 นาที
วิธีการจองตั๋วรถไฟลอยน้ำ
1. จองได้ที่สถานีรถไฟทั่วประเทศ
2. จองผ่าน Call center : 1690
ค่าโดยสารจาก กทม ไป-กลับ จะอยู่ที่ 270 บาท เป็นตั๋วระบุที่นั่ง
![]() |
Cr: ทีมนั่งรถไฟ กับนายแฮมมึน |
กำหนดเวลาเดินรถ
- รถไฟออกจากสถานีหัวลำโพง เวลา 07.10 น. เที่ยวกลับจากเขื่อนป่าสักฯ เวลา 15.00 น. ถึงกรุงเทพ เวลา 18.30 น.
วันที่ฝนไป รถไฟออกช้ากว่ากำหนดเล็กน้อย ส่วนขากลับมาถึงสถานีบางซื่อ ราวๆ 6 โมงเย็น
![]() |
Cr: ทีมนั่งรถไฟ กับนายแฮมมึน |
เวลาเลือกที่นั่ง แนะนำนั่งทางขวามือ จะสวยที่สุด สามารถเห็นวิวเขื่อนเต็มๆ
ทางด้านซ้ายวิวสวยไม่แพ้กันนะ แต่ตอนรถไฟวิ่งผ่านเขื่อนจะเห็นเสาโทรเลข มาบดบังทัศนียภาพเล็กน้อย
![]() |
Cr: ทีมนั่งรถไฟ กับนายแฮมมึน |
การเดินทางไปเขื่อนป่าสักฯ ด้วยรถไฟลอยน้ำในครั้งนี้ ฝนไปขึ้นรถไฟที่สถานีบางซื่อ
ในที่สุด การเดินทางด้วยรถไฟลอยน้ำของเราก็เริ่มต้นขึ้น
กำหนดการท่องเที่ยวของวันนี้
นั่งรถไฟไปได้สักระยะ ทางเจ้าหน้าที่บนรถไฟ มีกิจกรรมแจกของให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุกกันเล็กน้อย
เมื่อรถไฟแล่นมาถึงกลางสะพาน ณ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ขบวนรถไฟก็ได้ทำการจอดรถให้ทุกคนไปถ่ายรูปและสัมผัสถึงความงามของเขื่อนเป็นเวลา 30 นาที
นักท่องเที่ยวลงมาถ่ายรูปเยอะมาก มองผ่านๆ อารมณ์เหมือนอยู่อินเดียเลยทีเดียว
เจ้าหน้าที่ Life guard คอยขับเรือสอดส่องพร้อมโบกมือทักทาย เผื่อมีใครตกน้ำจะได้ช่วยทัน
ครบ 30 นาทีแล้ว รถไฟได้เคลื่อนขบวนต่อ เผื่อไปส่งผู้โดยสารที่สถานีโคกสลุง
เมื่อถึงสถานีก็มีวิทยากรมาทักทายนักท่องเที่ยวพร้อมให้รายละเอียดการเดินทาง
รถไฟออกจากสถานีโคกสลุง เราได้ชมบรรยากาศเขื่อนป่าสักฯ สองข้างทางอีกครั้ง ธรรมชาติสวยงาม มองไปเป็นอ่างเก็บน้ำที่กว้างสุดลูกหู ลูกตา ราวกับรถไฟวิ่งผ่านทะเลสาบน้อยๆก็มิปาน
รถไฟมาส่งนักท่องเที่ยวที่สถานีเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ สำหรับใครที่โดยสารมากับขบวนรถนี้ รถไฟจะออกจากสถานี ตอนเวลาบ่าย 3 โมงตรง เพราะฉะนั้นอย่าชมเขื่อนเพลินจนลืมเวลาล่ะ
เมื่อถึงเขื่อนป่าสัก เราก็จะพบกับกิจกรรมและร้านค้ามากมาย ไม่ว่าจะเป็น
- จำหน่ายสินค้า OTOP
- นั่งรถม้า
- นั่งรถตัวหนอนชมเขื่อน
- การแสดงวิถีชีวิตชุมชนไทยเบิ้ง
![]() |
พ่อค้าขายเมล็ดทานตะวันคั่วร้อนๆ ใจดีให้ชิมฟรีด้วย |
การแสดงวิถีชุมชนไทยเบิ้งบ้านโคกสลุง เราชอบการแสดงนี้มาก มีสาวๆอายุไม่น้อย มาคอยเต้นรำด้วยความสนุกสนาน เป็นที่สะดุดตาแก่นักท่องเที่ยว
ส่วนรถตัวหนอนชมเขื่อน เราไม่ได้นั่งงะ เลยไม่ได้ถ่ายรูปมา แอบเสียดายมาก เนื่องจากเวลาไม่ได้
แนะนำว่าใครที่ไปถึงเขื่อน ให้ไปซื้อตั๋วนั่งรถตัวหนอนก่อนเลย อย่ามั่วแต่เอ้อระเหย ลอยชาย ไม่เช่นนั้นจะอดเหมือนเรา 555++
หลังจากผิดหวังจากการอดนั่งรถตัวหนอน เลยเดินไปชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแทน
ภายในพิพิธภัณฑ์ได้จัดแสดงสัตว์น้ำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกระเบนยักษ์ ปลาแรด ปลากรายและปลาอีกมากมาย ฯลฯ ให้นักท่องเที่ยวได้ชมกันอย่างจุใจ
![]() |
ปลากระเบนน่ารัก เล่นกล้องด้วย |
ปลากราย ว่าแต่มันคืออันเดียวกับที่ทำทอดมันปลากรายป่ะเนี่ย
![]() |
ปลากราย |
หลังจากชมสัตว์น้ำเสร็จ เง้อ!!!! หมดเวลาสนุกแล้วสิ หมดเวลาสนุกแล้วสิ
ต้องกลับกทมแล้ว...... ว่าแล้วก็ถอนหายใจ พร้อมกับเดินไปขึ้นรถไฟที่จอดรออยู่ที่ชานชลา