30 Something girls | Travel & Lifestyle Blogger | บล็อกเกอร์ท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์: Phuket

รีวิว Forty Winks Phuket Hotel Review

ฝน:เฮ้ย แก!!!! ไปเที่ยวหาดป่าตอง ที่ภูเก็ตกัน

B: โอเค แก จะไปกี่วันว่ามาเลย แต่ที่พัก ชั้นขอ สะอาด มีสระว่ายน้ำ ฟรีไวไฟ รวมอาหารเช้า Buffet และ บลาๆๆๆ นะ

ฝน: O_O #@($&)(@$)@&$ ?

หาดป่าตอง เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ Popular มาก แห่งหนึ่ง ในจ.ภูเก็ต การหาที่พักนั้น ไม่ใช่เรื่องยากเลย เพราะโรงแรมในป่าตองมีให้เลือกมากมายก่ายกอง

แต่จะเลือกโรงแรมไหนดีล่ะ ก็มันเยอะซะจนเลือกไม่ถูก นั่งเปิดคอมดูจนตี 1 กว่า ตาจะปิด

ในที่สุดได้ตัดสินใจเลือก โรงแรม Forty Winks Phuket น่าจะตอบโจทย์เพื่อนได้ เพราะเงื่อนไขมีครบทุกข้อตามที่นางรีเควส

ทั้ง Free Wi Fi และ Breakfast Buffet พร้อมสระว่ายน้ำ ไม่ไกลจากแหล่งช๊อปปิ้ง

โรงแรมตั้งอยู่ที่ ถนนนาใน เลขที่ 64/1 Nanai Rd., Patong, Phuket, Thailand 83150

ไปไม่ถูก ก็สามารถโทรไปถามทางได้ ที่ Tel : +66 76 342 782-3, +66 76 342 851

เพราะตอนเราไป เราก็แอบหลงเช่นกัน เปิดทั้ง GPS, ทั้ง Google maps เลยทีเดียว

โรงแรม จะตั้งอยู่ในแหล่งชุมชน มีที่จอดรถน้อย จอดได้ประมาณ 3-4คัน เนื่องโรงแรมตั้งอยู่ติดถนนเลย จึงไม่มีที่จอดรถมากนัก ถ้าไปช่วงเทศกาลอาจจะทำให้ไม่มีที่จอดได้

ส่วนใครที่ไม่ได้นำรถไป แล้วกลัวว่าจะไกล อาหารการกินไม่สะดวกนั้น ไม่ต้องกังวลเลย เพราะแถวถนนนาใน มีของกิน ราคาประหยัด

มีร้าน Pizza ร้านอาหาร ที่ราคาถูกกว่าหน้าหาดแถมอร่อยอีกต่างหาก

ตรงข้ามโรงแรม ก็มี Super Cheap มินิมาร์ทยอดฮิต ใน จ.ภูเก็ต สินค้าใน Super Cheap เนี่ย ถูกกว่า มินิมาร์ทอื่นๆใช้ได้เลยทีเดียวนา

จากโรงแรม Forty Winks เดินไปศูนย์การค้า Jungceylon ประมาณ 10 นาที ถือว่าไม่ไกลมาก แต่ถ้าเดินกลางวันก็แอบร้อนไม่เบา 55555

เราจองเป็นห้อง Deluxe With Breakfast ในราคาคืนละ 678 บาท ถือว่าราคาถูกเลยทีเดียว

สำหรับใครที่อยากจองที่พักราคาถูก ลองจองผ่าน Traveloka ดูเพราะเค้าจะมี Code ส่วนลดมาให้เป็นประจำ โดยเราก็เข้าไปจองที่นี่เลย >> Traveloka

ลืมถ่ายตัวตึกมาให้ดู มาเริ่มกันที่ Lobby กันเลยดีกว่า

ขวามือของ Lobby เป็นโต๊ะรับประทานอาหารในตอนเช้า

Check - in เสร็จ ก็เอากระเป๋าไปวางไว้บนห้อง ระหว่างทางเดินขึ้นห้อง ผ่านห้องอาหารคลุมผ้าไว้เรียบร้อย เพื่อที่จะให้บริการในเช้าวันถัดไป

ทางเดินก่อนขึ้นลิฟท์ ก็มีโซฟา ไว้ให้นั่งพักผ่อน

ส่วนด้านขวามือ ก็จะมีคอมพิวเตอร์ไว้บริการอินเตอร์เน็ต

เราพักชั้น 6 ซึ่งเป็นชั้น บนสุด ของโรงแรม

ห้องพักไม่กว้างมาก สะอาดสะอ้าน เตียงนอนกับห้องน้ำ เป็นกระจกใส สามารถมองเห็นกันได้ชัดแจ๋ว ไม่มีเบลอ 5555 แต่ทางโรงแรมก็ไม่ลืมที่จะทำม่าน เพื่อให้ดึงปิดเปิดได้ ตามอัธยาศัย

การตกแต่ง ถือว่าเรียบง่าย ดูดี เหมาะสมกับราคา

มีตู้เซฟไว้ให้ใส่สิ่งของมีค่า แต่เราไม่ได้ใส่อะไร เพราะเวลาไปเที่ยว จะไม่ค่อยพกอะไรที่มีค่าไปเท่าไหร่ ยกเว้น กล้องและโทรศัพท์ ซึ่งเราจะพกติดตัวตลอดเวลา

ห้องน้ำก็สะอาด น้ำแรงดี ฝักบัวทำไว้สูงเผื่อชาวต่างชาติมาใช้บริการ

เนื่องจากโรงแรมตั้งอยู่ในแหล่งชุมชน ไม่ได้ติดหาด วิวจากระเบียงชั้น 6 ก็เป็นดังภาพ

ตกเย็น เราก็เปลี่ยนชุดว่ายน้ำ ลงมาดำผุด ดำว่ายในสระ ซึ่งสระก็ขนาดกระทัดรัด สะอาด และไม่ลึก 555+++

ดูห้องพักกันไปแล้ว มาดูอาหารกันบ้าง ว่ามีอะไรบ้าง

เราชอบบรรยากาศห้องอาหาร ดูน่ารักกระทัดรัดดี

ไลน์อาหารจะเป็น อาหารเช้าเบสิค ทั่วไป ขนมปังปิ้ง ครัวซองค์ ไข่ดาว ซีเรียล ชา กาแฟ นม น้ำส้ม ผลไม้

เราสั่งไข่ดาว เบคอน และแฮม ไข่ดาวและเบคอนจะทอดให้สดๆ ตามออเดอร์

ครัวซองค์ ทาเนย อร่อยจุง จัดไป 2 เบาๆ

ทานอาหารเช้าเสร็จ ก็ Check-out กลับบ้านเรากัน เย้ เย้

0Comments

, by girl in a big world

In Activity, Life style

Flying Hanuman ภูเก็ต Zipline ห้อย โหน ปีนป่าย

เที่ยวภูเก็ตทั้งที นอกจากจะไปดำน้ำ นอนอาบแดด ขี่ Jetski หรือจะขี่ ATV แล้ว

เรายังมีอีกหนึ่งกิจกรรม ที่ท้าท้ายเหมาะสำหรับคนที่ชอบหวาดเสียว เล็กน้อยถึงปานกลาง มาแนะนำกัน

นั่นก็คือ Zipline ที่ Flying Hanuman Phuket นั่นเองค่ะ

Flying Hanuman ตั้งอยู่ที่ อ.กระทู้ จ.ภูเก็ต

แผนที่ตามข้างล่างเลยค่ะ

ทางเข้าก็เป็นป่า อุดมสมบูรณ์และร่มรื่นมาก มาถึงแล้วประตูทางเข้า

เข้าไปก็เจอซุ้ม สวยดีเลยถ่ายมา

มองไปทางขวามือ ก็เจอกับหนุมาน “สวัสดีค่ะ หนุมาน” ชื่อว่า Flying Hanuman ครั้นจะไม่มีหนุมาน ก็ไม่ใช่จริงมะ

ภาพนี้เป็นโต๊ะหมู่บูชาท่านหนุมาน ว่าแล้ว ก็ไหว้ขอพร “ขอให้ลูกช้างเล่น Zipline อย่างปลอดภัยด้วยเถิ๊ด เจ้าค่า อย่าให้สายสลิงขาด เพราะรับน้ำหนักตัวลูกช้างไม่ไหวเลยเจ้าค่า”

เดินเข้าไปเรื่อยๆ ก็จะเจอกับเคาน์เตอร์ ลงทะเบียน

Flying Hanuman จะมีให้เราเลือกเล่น 3 Package ด้วยกันค่ะ

1. Journey A : 28 Platforms รวมอาหาร และผลไม้ตามฤดูกาล ราคา 3,490 บาท

2. Journey B : 28 Platforms รวมผลไม้ตามฤดูกาล ราคา 3,250 บาท

3. Discover Journey C : 16 Platform รวมผลไม่ตามฤดูกาล ราคา 2,300 บาท

ทุก Package จะได้รับเสื้อ Flying Hanuman เป็นที่ระลึกด้วย ส่วนราคาข้างต้นนั้น ถ้ามีโปรโมชั่น หรือจองในงานท่องเที่ยว ก็จะถูกลงกว่านี้ค่ะ

เราเลือก Journey B: 28 Platforms ค่ะ แบบมาทั้งทีขอเล่นให้ครบทุกด่านเลยแล้วกันเนอะ

แต่ละวันจะมีให้เล่น 4 รอบ มี 8.00 , 10.00 , 13.00, และรอบสุดท้ายของวันคือ 15.00

เราเลือกเล่นรอบ 10 โมงเช้า ตอนแรกจะเลือกรอบ บ่ายโมงแล้วแหละ แต่กลัวร้อน แต่พอเอาเข้าจริงๆ เล่นในป่า ร่มรื่นมาก โดดแดดน้อย

ระหว่างลงทะเบียนนั้น ก็จะมี Welcome drink มาบริการ น้ำอะไม่รู้ อร่อยดี หิวน้ำเลยรีบกินจนหมด ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ 55555++ พอลงทะเบียนเสร็จ เค้าก็จะเอา Wristband มาให้เราใส่

นั่งรอสักพักจากนั้นก็มี Staff มาแนะนำตัวและพาเราไปเข้ากลุ่ม

Staff 2 คนต่อหนึ่งกลุ่ม มาให้ความรู้เรื่องความปลอดภัยและวิธีการเล่น

นี่เป็นอุปกรณ์ใส่เพื่อความปลอดภัยในการเล่น คุณแค่ยืนสวยๆ Staff ใส่ให้หมดทุกอย่างค่ะ แถมมีน้ำขวดน้อยให้พกขึ้นไปคนละ 1 ขวดด้วย

สำหรับใครที่มีสัมภาระ กระเป๋าต่างๆ ทาง Flying Hanuman ก็จะมี Locker ไว้เก็บของด้วย เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลว่าของจะหาย

เอาละ เริ่มได้ นี่คือภาพทางเดินไป Platform แรก แอบขึ้นเนินเบาๆ ได้เหงื่อเล็กๆ

ถีงแล้ว Platform แรก ก่อนเล่น Staff ได้ทำการBrief อีกครั้ง เพื่อความชัวร์ คือ ขณะเล่น ห้ามจับสายสลิง เป็นอันขาด จะปล่อยมือ แกว่ง โบกสะบัดอะไรก็ได้ แต่ห้าม จับสลิง และห้ามปลด Safety เองเป็นอันขาด ต้องให้ Staff ปลดให้เท่านั้น

กรุ๊ปเรามี 8 คน Staff อีก 2 คน

และแล้วก็มาถึงวัน วันที่เธอจะต้องห้อยโหน

Staff ขออาสาสมัคร ว่าใครจะลองก่อนคนแรก ลูกทีมทุกคนมองหน้ากัน หึหึ คนไทย ไม่แพ้ชาติใดในโลกค่ะ อย่าไปกลัว ไหนไหน ก็มาแล้วจริงมะ ว่าแล้วก็ยิ้มสยาม ส่งสายตาไปหาพี่จีน

พี่จีนเลยอาสาโดดก่อนคนแรก ส่วนเรานะหรอ ขอกลางๆละกันจ้า

แต่ละด่าน ความสูงและระยะทางก็จะไม่เท่ากัน ความหวาดเสียวก็เช่นกัน

Staff จะคอยดูแล ใส่และปลด Safety ให้ทุกครั้ง แถมอาสา เป็นตากล้องให้อีกด้วย เริ่ดมาก แต่ถ้าใครอยากได้ภาพสวยๆ ทาง Flying Hanuman ก็มีให้ซื้อแพคแกจถ่ายภาพและวิดีโอด้วย จำไม่ได้ว่าราคาเท่าไหร่ แต่จะมีช่างภาพคอยตาม ไปถ่ายทุก Platforms ยิ่งกว่า ซุปตาเลยทีเดียว